กัญชาดูเหมือนว่าจะกลายเป็นความหวังใหม่ทางด้านการแพทย์ ที่เริ่มมีการค้นคว้าวิจัยในประเทศไทยมากขึ้นหลังจากที่มีการปลดล็อกกัญชาไปเมื่อกลางปี 2565 ที่ผ่านมา แต่ในอดีตไทยเราก็เคยใช้กัญชาเป็นยารักษาโรคมาก่อน สืบค้นตามประวัติจะพบว่า เราใช้กัญชาในตำรับยารักษาอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ มาตั้งแต่ยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา (พ.ศ. 2175-2231) แต่เหตุที่หยุดการใช้ไปก็เพราะกัญชาถูกกำหนดให้เป็นสิ่งเสพติด ตามอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ปี ค.ศ. 1961
แต่เมื่อวันนี้กัญชาได้กลับมาเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง เหมือนดารายุคเก่าที่ได้กลับมารับบทตัวเอกท่ามกลางสปอร์ตไลท์ กัญชาจึงถูกจับจ้องและได้รับการศึกษาเพิ่มเติมอย่างเข้มข้นจนกลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการแพทย์มีการยอมรับว่า การใช้สารสกัด CBD และ THC จากกัญชาเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนในการรักษาโรคได้ เมื่ออยู่ภายใต้การควบคุมของเเพทย์
ต้นกัญชาสามารถใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่รากไปจรดปลายยอด จากการศึกษาพบว่าต้นกัญชามีส่วนประกอบของสารเคมีมากกว่า 450 ชนิด แต่สารสำคัญของกัญชาที่นำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ ประกอบไปด้วยสารหลักๆ อยู่ 2 ชนิด คือ สาร THC (Tetrahydrocannabinol) และสาร CBD (Cannabidiol) ซึ่งทั้งคู่เป็นสารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ (Cannabinoids) ที่พบได้ทั้งในกัญชาและกัญชง ถึงแม้ว่าสารทั้งสองตัวนี้จะอยู่ในกลุ่มแคนนาบินอยด์เหมือนกัน แต่กลับมีความแตกต่างกันคือ THC จะออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เป็นสารที่ทำให้เกิดการมึนเมาได้ ส่วนสาร CBD นั้นไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท และไม่ทำให้มึนเมา นอกจากนี้สาร THC ที่มีค่าเกิน 0.2% ยังจัดอยู่ในประเภทของยาเสพติด หากใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตก็จะมีความผิดตามกฎหมายยาเสพติด ส่วน CBD ไม่จัดเป็นยาเสพติด และถ้าหากมองลงไปในรายละเอียดของสารทั้งสองชนิดต่อการนำมาใช้ทางการแพทย์ก็จะเห็นประโยชน์ที่แตกต่างเช่นกัน
ร่างกายของมนุษย์ทุกคนมีต่อมรับแคนนาบินอยด์อยู่ในระบบประสาทโดยธรรมชาติคือ ระบบเอ็นโดแคนนาบินอยด์ Endocannabinoid System (ECS) ซึ่งเป็นระบบทางสรีรวิทยาที่ควบคุมการทำงานและรักษาความสมดุลของร่างกาย ECS มีหน้าที่ช่วยการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในระบบพลังงาน ระบบเผาพลาญ การลำเลียงสารอาหารและการเก็บรักษาพลังงาน โดยมีต่อมรับกระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายคือ CB1 และ CB2
CB1 – อยู่ในสมองและระบบประสาทส่วนกลาง ฮิปโปแคมปัส – ทำหน้าที่หลักในเรื่องความจำ, ซีรีเบลลั่ม – ทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและการทรงตัว
CB2 – อยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน (ในเนื้อเยื่อของม้าม) และในระบบประสาทรอบนอก
ในทางการแพทย์ จึงนำสารสกัด CBD และสาร THC จากกัญชามาใช้ในการรักษา โดย THC ที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท มาใช้ช่วยให้เกิดการผ่อนคลาย ช่วยให้นอนหลับง่าย ช่วยลดอาการตึงเครียด ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และช่วยกระตุ้นให้อยากอาหาร ส่วนสาร CBD ไม่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ช่วยลดการอักเสบ ช่วยลดความเจ็บปวด ช่วยลดอาการชักเกร็ง ช่วยต่อต้านยับยั้งเซลล์มะเร็ง และช่วยให้สงบผ่อนคลาย
จะเห็นได้ว่าการใช้ประโยชน์จากสารกัญชา THC และ CBD ทางการแพทย์นั้น ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำ เพราะยังมีการศึกษาถึงข้อดีข้อเสียกันอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรนำกัญชามาใช้เพื่อการรักษาโรคด้วยตนเอง เพราะในกัญชามี THC ประกอบอยู่มากถึง 12% และมี CBD เพียงไม่ถึง 0.30% เท่านั้น การจะใช้สารสกัดจากกัญชา CBD และ THC ได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงต้องใช้การสกัดออกมา ซึ่งต้องผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมแปรรูปจากสถานที่ผลิตมาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขรับรอง จึงจะนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่จะสามารถใช้กัญชารักษาโรคได้นั้น ก็จะต้องผ่านการอบรมใช้หลักสูตรการใช้กัญชารักษาทางการแพทย์ก่อนที่จะให้คำปรึกษาได้
การใช้สาร CBD และ THC ทางการแพทย์จึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะทุกวันนี้หลายภาคส่วนได้หันมาสนใจทุ่มงบศึกษาวิจัยและตระเตรียมบุคลากรผู้เชี่ยวชาญกันอย่างเต็มที่ จึงถือว่ากัญชากลายเป็นความหวังใหม่ทางการแพทย์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจกัญชาทางการแพทย์เป็นทางเลือกเพื่อสุขภาพ
ปรึกษาทีมสุขภาพของ POW MED คลินิกกัญชาทางการแพทย์ โทร. 082-859-9441
หรือแอดไลน์ @powmedclinic (มี @ ด้านหน้า)
อ้างอิงที่มา :
เว็บไซต์ทางการแพทย์ บทความกัญชาทางการแพทย์ โดย พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา
https://www.wongkarnpat.com/viewpat.php?id=2972
เว็บไซต์สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ “ปลดล็อกกัญชา” ไม่เท่ากับ “กัญชาเสรี” เน้นใช้ทางการแพทย์ต่อยอดเศรษฐกิจ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG220713131026126
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณะสุข เปิดข้อดี “กัญชา” รักษาโรคอะไรได้บ้าง
https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2406172
เว็บไซต์ Grow stuff ข้อมูลจากแพทย์สภา กัญชาน่ารู้
https://growstuffshop.com/thc-cbd-knowledge